วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัณ Mrigadayavan Palace

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัณ Mrigadayavan Palace

เนื้อหา
1. ประวัติความสำคัญ
2. ข้อมูลสถานที่
3. รูปแบบสถาปัตยกรรม
4. ตำนาน
5. ชื่อนี้มีความหมาย
6. บทวิเคราะห์ในด้านคุณค่าและความสำคัญ



ประวัติเบื้องต้น
   พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นพระราชวังฤดูร้อนซึ่งเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2466 ซึ่งพระองค์ทรงเสด็จมาประทับ ณ พระราชนิเวศน์แห่งนี้เพียงสองครั้งเท่านั้น ปัจจุบัน พระราชนิเวศน์แห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งถูกพระราชทานเป็นพื้นที่ของค่ายพระรามหก และได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเพชรบุรี พระราชนิเวศน์แห่งนี้ถูกบูรณะโดยสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งเป็นพระธิดาองค์เดียวในรัชกาลที่หก


ข้อมูลสถานที่

พระราชนิเวศน์มฤคทายวันตั้งอยู่ที่ ถนน เพชรเกษม เลขที่ 1281 ตำบล ชะอำ อำเภอ ชะอำ เพชรบุรี 76120






รูปแบบสถาปัยกรรม
      เป็นอาคารไม้สักทอง ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ผสมยุโรป เป็นเรือนไม้สองชั้นใตั้ถุนโล่งสูงหันหน้าออกสู่ทะเล  ใต้ถุนถูกทำให้เป็นคอนกรีตเพื่อความคงทน หลังคาเป็นรูปแบบหลังคาปั้นหยา มุงด้วยกระเบื้องว่าว เพดานยกสูงมีบานเกล็ดระบายความร้อน โดยมีเสารองรับอาคารทั้งหมด 1080 ต้นซึ่งเสาทุกต้นนั้นถูกหล่อฐานเสายกขึ้นเป็นรางน้ำเพื่อกัดมด และ แมลง
      พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อถึงกันโดยตลอด ได้แก่ พระที่นั่งสมุทรพิมาน พระที่นั่งพิศาลสาคร และพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์


ตำนานของพระราชนิเวศน์แห่งนี้
   พระราชนิเวศน์แห่งนี้ มีตำนานที่เล่าขานต่อๆ สืบเนื่องมาจากเมื่อคราวที่พระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี ทรงพระครรภ์นั้น พระมหาธีรราชเจ้าทรงพระเกษมสำราญยิ่งด้วยทรงมุ่งหวังว่าจะทรงมีพระราชปิโยรส แต่ความหวังทั้งมวลก็สิ้น สลายเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ ไม่สามารถมีพระประสูติกาลได้ ยามนั้นพระองค์ท่านทรงอภิบาลพระมเหสีด้วยน้ำพระทัยเป็นห่วงและเศร้าสร้อย ณ พระที่นั่งสมุทรพิมานแห่งนี้ อย่างไรก็ดี พระราชนิเวศน์ยังเป็นสถานที่พระบาทสมเด็พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงบังเกิดพระราชประดิพัทธ์ในความรักครั้งต่อมากับคุณสุวัทนา ซึ่งต่อมาทรงสถาปนาเป็นเจ้าจอมสุวัทนา และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ตามลำดับ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวันพร้อมด้วย พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ซึ่งมีพระครรภ์พระหน่อ อีกครั้งระหว่างวันที่ 12 เมษายน ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2468การเสด็จครั้งนี้เสมือน หนึ่งการเสด็จมาเพื่ออำลาพระราชนิเวศน์ที่ทรงรักโดยแท้ เพราะเมื่อเสด็จกลับพระนคร อีก 5 เดือนพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ประสูติพระราชธิดาแล้ว วันรุ่งขึ้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็เสด็จสวรรคต (อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย)

มฤคททายวัณ....ชื่อนี้มีความหมาย
      ในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาประทับ และพระราชทานนามว่า “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” ด้วยมีพระราชประสงค์จะรักษาความหมายของชื่อเดิม “ห้วยทราย” ที่เรียกกันในท้องถิ่นไว้ เนื่องจากป่าในท้องที่ตำบลห้วยทรายเหนือชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่าประเภทเนื้อทราย กวาง หรือในภาษามคธเรียกว่า “มฤค” ซึ่งมักจะมากินน้ำตามลำห้วย ทั้งยังเป็นชื่ออันเป็นสิริมงคล เพราะตรงกับชื่อ “ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน” ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาตามพุทธประวัติ

บทวิเคราะห์ในด้านคุณค่าและความสำคัญ

        พระราชวังแห่งนี้เป็นพระราชวังแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามมาก โครงสร้างของอาคารถูกสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหมด ทาด้วยสีโทนพาสเทล คือสี ชมพู ฟ้าและเหลือง ซึ่งสร้างการแสดงออกถึงความหวานโรแมนติกให้แก่ตัวงานสถาปัตยกรรม รูปแบบงานสถาปัตกรรมที่ผสมกันกับตะวันตกนั้นแสดงถึงการมีอิทธิพลของชาติตะวันตกในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี  มีการจัดสวนแบบยุโรบคือมีลานน้ำพุที่ล้อมรอบไปด้วยรั้วต้นไม้  สำหรับตัววังนั้นหากมองในแง่ฟังชั่นการใช้งานแล้วได้ทำการแยกฟังชั่นส่วนต่างๆไว้อย่างชัดเจนโดยฝ่ายในจะอยู่ทางปีกขวาซึ่งเป็นเรือนประทับของพระมเหสีและข้าราชบริพารฝ่ายในที่เป็นสตรี ส่วนฝ่ายหน้าจะอยู่ทางปีกซ้ายซึ่งเป็นที่พำนักของพระมหากษัตรย์และบริวาร โดยแต่ละปีกของวังนั้น จะมีทางเดินเชื่อมจากตัวอาคารหลักไปยังศาลาลงสรงแยกกันระหว่างฝ่ายหน้าและฝ่ายใน เนื่องจากตัววังนั้นมีการจัดการใช้งานให้ฟังชั่นแยกออกจากกันอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นที่เสวยพระกระยาหาร ห้องบรรทม เรือนบริวาร ต่างๆ ทำให้ต้องมีทางเดินเชื่อมแต่ละส่วนเข้าหากัน ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของพระราชวังคแห่งนี้เลยทีเดียว  การจัดวางตำแหน่งห้องต่างๆของวังนั้นถูกคิดมาอย่างดี ทำให้ทุกห้องสามารถรับลมและเห็นทัศนียภาพทะเลได้ทั้งหมด
     
                 ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบให้กับตัววังคือ แรงลมและไอทะเล เนื่องจากตัวอาคารส่วนใหญ่เปิดโล่งเพื่อทำการรับลมทะเลจึงส่งผลทำให้วังทรุดโทรมลง บวกกับความชื้นของทะเลที่ส่งผลทำให้ไม้นั้นมีความชื้น ส่งผลให้เกิดเชื้อราและผุพังลง   ปัญหาอีกหนึ่งจุดที่สำคัญคือ ผลกระทบจาการบูรณะของกรมศิลปากรในช่วงเวลาที่ผ่านมา นั้นขาดความเข้าใจในแง่การอนุรักษ์ และเรื่องโครงสร้าง ทำให้เรายังเห็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นส่งต่อกันมา


พระราชนิเวศน์มฤคทายวันถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การรักษาอย่างยิ่ง นอกจากจะเป็นรูปแบบงานที่เห็นได้น้อยลงเรื่อยๆในปัจจุบัน รวมถึงเป็นวังที่มีเอกลักษณ์เฉพาตัวเหมาะแก่การเข้าชมเพื่อศึกษาอย่างยิ่ง

ความประทับใจ
   เป็นพระราชวังที่มีความสวยงามด้วยรูปลักษณ์และการใช้สี การใช้ประโยชน์ของพื้นที่ตั้งได้เต็มศักยภาพ งานผลิตภัณฑ์ที่ขายมีความเป็นเอกลักษ์ ไอครีมเชอร์เบตกระท้อนอะหร่อยมาก